ห้องขยะคอนโด จัดการยังไงให้ถูกวิธี เพื่อชีวิตที่น่าอยู่
ห้องขยะคอนโด อาจเป็นภาพที่หลายคนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึง กลิ่นไม่พึงประสงค์ ความไม่เป็นระเบียบ หรือแม้แต่ผลกระทบต่อสุขอนามัยของผู้พักอาศัย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ห้องขยะไม่ได้เป็นเพียงจุดทิ้งของเหลือใช้เท่านั้น หากมีการจัดการอย่างถูกวิธีและมีวินัยร่วมกันจากทุกคนก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่ที่สร้างคุณค่าให้กับโครงการได้อย่างแท้จริง ในบทความนี้ SMART จะพาคุณไปเข้าใจถึงปัญหา การใช้งานห้องขยะคอนโดอย่างเหมาะสม และแนวทางที่ช่วยส่งเสริมให้ขยะกลายเป็น “โอกาส” ได้จริง
ห้องขยะคอนโดคืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?
ห้องขยะคอนโด คือพื้นที่ส่วนกลางที่จัดไว้สำหรับรวบรวมขยะจากแต่ละยูนิต ก่อนนำไปจัดเก็บหรือกำจัดตามรอบที่กำหนด โดยเทศบาลหรือบริษัทผู้รับเหมาภายนอก จุดประสงค์ของห้องขยะคือ:
- ควบคุมระบบทิ้งขยะให้เป็นระเบียบ
- ลดกลิ่นรบกวนในพื้นที่ส่วนกลาง
- รักษาความสะอาดและสุขอนามัยในโครงการ
แต่หากใช้อย่างไม่เหมาะสม ห้องขยะคอนโดอาจกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาต่าง ๆ เช่น กลิ่นเหม็นที่กระจายเข้าสู่ทางเดินหรือแม้แต่ในห้องพัก, คราบน้ำขยะจากการทิ้งโดยไม่ปิดถุงให้ดี ไปจนถึงการสะสมของแมลงพาหะและสัตว์รบกวน ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าอยู่อาศัยของโครงการโดยตรง
ปัญหายอดฮิตที่พบในห้องขยะคอนโด
แม้จะมีห้องขยะไว้รองรับแล้ว แต่ยังคงพบพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อโครงการอยู่บ่อยครั้ง เช่น:
- การไม่แยกขยะ ทำให้ขยะรีไซเคิลปนเปื้อนและไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
- การวางขยะไว้หน้าห้องขยะ หรือทางเดิน แทนที่จะนำไปทิ้งในจุดที่กำหนด
- ทิ้งขยะโดยไม่มัดปากถุงหรือไม่มีถุงรอง ทำให้เลอะเทอะและมีกลิ่น
- ทิ้งของชิ้นใหญ่โดยไม่แจ้งนิติบุคคลล่วงหน้า
พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงก่อให้เกิดความไม่สะดวก แต่ยังเพิ่มภาระและส่งผลต่อส่วนรวมโดยไม่รู้ตัว
วิธีแยกขยะให้ถูกวิธี สร้างรายได้และเกิดประโยชน์จริง
หากห้องขยะคอนโดถูกจัดการอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงแค่ช่วยให้คอนโดมิเนียมดูสะอาด น่าอยู่อาศัยมากขึ้น แต่ยังช่วยทำให้สิ่งที่ดูเหมือนไม่มีค่าก็สามารถสร้างรายได้ให้กับโครงการ และเป็นแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนได้ SMART ขอแนะนำการแยกขยะเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. ขยะรีไซเคิล – ขยะประเภทนี้มีมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ สามารถนำไปขายให้กับบริษัทรีไซเคิลเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่ ตัวอย่างเช่น
- ขวดน้ำพลาสติก (PET) (ราคาขายเฉลี่ย 5-10 บาท/กิโลกรัม)
- กล่องนม/กล่องกระดาษ (ราคาขายเฉลี่ย 3-5 บาท/กิโลกรัม)
- กระป๋องอลูมิเนียม/กระป๋องเครื่องดื่ม (ราคาขายเฉลี่ย 50 บาท/กิโลกรัม)
- ขวดแก้วใส (ราคาขายเฉลี่ย 10-15 บาท/กิโลกรัม)
- หนังสือพิมพ์/กระดาษสำนักงาน (ราคาขายเฉลี่ย 3-6 บาท/กิโลกรัม)
Tip: ล้างให้สะอาดและตากให้แห้งก่อนทิ้ง เพื่อลดกลิ่นและสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้
2. ขยะทั่วไป – เป็นขยะที่เกิดจากเศษอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน มักมีกลิ่นแรงและเน่าเสียง่าย เช่น
- เศษอาหาร เศษผักผลไม้
- ถุงขนม ทิชชู่ใช้แล้ว
- เปลือกผลไม้ ซองเครื่องปรุง
ข้อระวัง : ควรใส่ถุงดำและมัดปากถุงให้แน่น เพื่อป้องกันกลิ่นหรือของเหลวรั่วไหล และแมลงพาหะต่างๆ ที่จะมาตอมของเน่าเสีย
3. ขยะอันตราย – ต้องแยกทิ้งให้ถูกวิธี เพราะหากปนกับขยะทั่วไป อาจเป็นอันตรายต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม
- แบตเตอรี่/ถ่านไฟฉาย
- หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
- สเปรย์กระป๋อง/น้ำยาทำความสะอาด
- หน้ากากอนามัยใช้แล้ว
ข้อแนะนำ : ควรเก็บรวมไว้ในถุงแยกเฉพาะ และทิ้งในจุดที่โครงการหรือหน่วยงานรัฐกำหนด อย่าปนกับขยะชนิดประเภทอื่นๆ เพราะอาจเกิดการปนเปือน และสร้างอันตรายให้กับห้องขยะคอนโด และที่พักอาศัยได้
4. ขยะชิ้นใหญ่ เช่น ที่นอน, โซฟา, ตู้เย็น, ทีวีเก่า หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่
ข้อแนะนำ : ควรแจ้งนิติบุคคลล่วงหน้า เพื่อเตรียมการจัดเก็บและขนย้ายอย่างปลอดภัย อย่าทิ้งไว้หน้าห้องขยะ เพราะอาจขวางทางหรือขัดขวางระบบระบายกลิ่น
ห้องขยะคอนโดที่บริหารจัดการดี ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งคอนโด
การมีระบบแยกขยะอย่างเหมาะสม สามารถสร้างประโยชน์อย่างมากต่อทั้งโครงการ ทั้งด้านความสะอาดเรียบร้อย สุขอนามัย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้โครงการ ลดต้นทุนการจัดการขยะ สร้างรายได้นำกลับมาพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน รวมถึงการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้เอง SMART จึงสนับสนุนพร้อมช่วยเหลือลูกบ้านในการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ผ่านโครงการ SMART Eco Caring เพื่อประสานกับสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ให้สามารถรับขยะรีไซเคิลจากโครงการได้โดยตรง สร้างรายได้นำกลับไปพัฒนาโครงการนั้นๆ ต่อไป โดยในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2024 โครงการ SMART ECO Caring สามารถจัดการขยะรีไซเคิลได้ถึง 5,200 กิโลกรัม
จะเห็นได้ว่า ปัญหาห้องขยะคอนโด หากไม่ได้รับการจัดการที่ดี ก็สามารถสร้างผลกระทบในหลายๆ ด้านต่อที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง แต่หากได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี ก็สามารถสร้างประโยชน์ได้มากมาย รวมถึงสร้างรายได้ให้กับโครงการ เพื่อนำกลับไปพัฒนาโครงการในด้านอื่นๆ อย่างเช่น โครงการ SMART ECO Caring ที่ทำขึ้นเพื่อจัดระเบียบการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้ม




