เพื่อนข้างห้องเสียงดัง ปัญหาที่ลูกบ้านคอนโดต้องรับมือ

เพื่อนข้างห้องเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงปาร์ตี้ เสียงเพลง หรือเสียงลากเฟอร์นิเจอร์กลางดึก ส่งผลให้ชีวิตประจำวันและการพักผ่อนถูกรบกวนจนนอนไม่หลับ ปัญหาที่ลูกบ้านคอนโดมักพบเจอบ่อยๆ บทความนี้ SMART ขอแนะนำแนวทางจัดการเพื่อนข้างห้องเสียงดังอย่างเหมาะสม โดยไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างกัน

สาเหตุทั่วไปของเสียงดังในคอนโด

1. โครงสร้างผนังที่มีการแชร์ร่วมกัน

คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มีผนังที่เชื่อมติดกับห้องข้างเคียง เสียงกิจกรรมทั่วไป เช่น การเดิน การเปิด-ปิดประตู หรือเสียงลากเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้ามาในห้องได้ง่าย แม้ว่าจะมีการเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน แต่ลักษณะโครงสร้างร่วมกันระหว่างห้องก็อาจทำให้เกิดเสียงรบกวนได้โดยไม่ตั้งใจ 

2. พฤติกรรมของเพื่อนข้างห้อง

ปัญหาหลักที่เจอได้บ่อย คือการใช้ชีวิตที่ส่งเสียงดังเกินความจำเป็นของเพื่อนข้างห้อง เช่น เปิดเพลงและดูทีวี พูดคุยเสียงดังโดยไม่รู้ตัว การทำงานที่ต้องใช้เสียง เช่น ขายของออนไลน์ ถ่ายคอนเทนต์ ไลฟ์สตรีม หรือจัดปาร์ตี้บ่อยครั้งในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้อื่นต้องการพักผ่อน เสียงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นได้

3. การปรับปรุงหรือซ่อมแซมห้อง

อีกหนึ่งสาเหตุที่มักสร้างเสียงรบกวนในคอนโด คือการตกแต่งหรือปรับปรุงห้อง เช่น การเจาะผนัง การติดตั้งชั้นวางของใหม่ การเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่การทำงานช่างที่ใช้เครื่องมือหนัก ยิ่งในคอนโดที่มีผนังบางเสียงจากการเจาะหรือกระแทกผนังสามารถส่งต่อไปยังห้องข้างเคียงได้ง่าย โดยเฉพาะการทำงานช่างในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น วันหยุด ช่วงค่ำ หรือช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้อยู่อาศัยต้องการความสงบมากที่สุด

วิธีรับมือและเทคนิคจัดการเมื่อเพื่อนข้างห้องเสียงดัง

1. แจ้งเพื่อนข้างห้องอย่างสุภาพ

เริ่มต้นด้วยการพูดคุยโดยตรง แจ้งให้รู้ว่า คุณถูกรบกวนจากเสียงดังที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบ เช่น นอนไม่หลับ รบกวนสมาธิ สร้างความรำคาญต่อคุณและคนในครอบครัว การพูดคุยตรงๆ โดยไม่ใช้อารมณ์มักช่วยให้เพื่อนข้างห้องเข้าใจและปรับพฤติกรรมได้ดีขึ้น พร้อมขอความร่วมมืออย่างนุ่มนวล เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น

2. แจ้งนิติบุคคลคอนโด

หากไม่สะดวกใจที่จะพูดคุยเอง หรือพูดคุยแล้วไม่ได้ผล เพราะกลัวมีปัญหากันในระยะยาว สามารถแจ้งนิติบุคคลของคอนโดให้ช่วยจัดการ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีและอยากแนะนำมากที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยเป็นตัวกลางในการจัดการได้แล้ว ยังสามารถดำเนินการตามข้อบังคับของอาคารชุด ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องและลดความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้งระหว่างกันได้อีกด้วย

3. ปรับปรุงห้องของตัวเองให้เก็บเสียงดีขึ้น

ถ้าหลีกเลี่ยงเสียงจากภายนอกไม่ได้ การปรับปรุงภายในห้องถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีและทำให้พื้นที่อยู่อาศัยน่าอยู่มากขึ้น การเสริมวัสดุภายในเพื่อป้องกันเสียงรบกวน เช่น

• ติดตั้งผ้าม่านหนา ช่วยลดเสียงจากผนัง
• ใช้เฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้หนังสือ หรือโซฟาขนาดใหญ่วางชิดผนังเพื่อดูดซับเสียง
• ใช้แผ่นโฟมกันเสียงติดที่ผนังหรือฝ้าเพดาน

ข้อดี: ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ในระยะยาว เพิ่มความเป็นส่วนตัว และยังช่วยให้ห้องดูอบอุ่นและมีมุมสงบมากขึ้น

เพื่อนข้างห้องเสียงดังผิดกฎหมายหรือไม่?

ในทางกฎหมาย การใช้เสียงดังเกินไปและรบกวนคนที่อาศัยร่วมกัน ถือเป็น “มลพิษทางเสียง” ซึ่งอาจเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย

• พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 ระบุว่า “ห้ามทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดเสียงที่สร้างความเดือดร้อน ความรำคาญแก่ผู้อื่น” หากผู้กระทำยังคงฝ่าฝืนและไม่แก้ไขตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีคำสั่ง อาจมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือปรับรายวันจนกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่ง 
• กฎหมายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 “ผู้ใดส่งเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน” ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

นอกจากนี้คอนโดส่วนใหญ่ยังมีข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุดที่ชัดเจน ห้ามลูกบ้านทำเสียงดังเกินความเหมาะสมโดยเฉพาะในช่วงเวลาพักผ่อนแม้หลายคนอาจมองว่าปัญหา “เพื่อนข้างห้องเสียงดัง” เป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเกิดซ้ำๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตได้ ดังนั้นปัญหานี้ ไม่ควรถูกมองข้าม ซึ่งการจัดการปัญหาที่ดีที่สุด คือการแจ้งให้นิติบุคคลช่วยดูแลจัดการ เพราะเป็นหนึ่งในหน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดที่ต้องช่วยรักษาความเรียบร้อยในโครงการ สำหรับลูกบ้าน SMART สามารถแจ้งนิติ SMART ผ่านเมนู “ข้อความ” บนแอปฯ SMART World ได้ตลอดเวลา เพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน