https://www.smartservice.co.th/th/

เพื่อนบ้านเป็น Influencer ชอบทำคอนเทนต์เสียงดัง โพสต์ประจานเลยได้มั้ย?

ในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียและการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ได้รับความนิยมจนเกิดเป็นอาชีพ Content Creator หรือ Influencer หลายคนเลือกทำคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบจากที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สตรีม การถ่ายวิดีโอ หรือทำเสียงประกอบเพื่อดึงดูดผู้ชม อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดจากการทำคอนเทนต์ในที่อยู่อาศัยคือเรื่อง “เสียงรบกวน” ซึ่งกลายเป็นความรำคาญใจสำหรับเพื่อนบ้านที่ต้องการความเงียบสงบ

ปัญหาเพื่อนบ้านทำคอนเทนต์เสียงดังรบกวน

การสร้างคอนเทนต์หรือทำงานออนไลน์จากที่บ้านไม่ใช่เรื่องที่ผิดครับ แต่อาจกลายเป็นปัญหาได้หากมีการใช้เสียงดังที่รบกวนผู้อื่น เช่น การใช้เสียงเอฟเฟ็กต์ดังเกินไป การพูดคุยเสียงดัง หรือการไลฟ์สตรีมในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น กลางคืนหรือตอนเช้ามืด หลายคนต้องการพื้นที่เงียบสงบเพื่อทำงาน พักผ่อน หรือเรียนหนังสือ เสียงรบกวนซ้ำ ๆ อาจทำให้เพื่อนบ้านนอนไม่หลับและไม่พอใจได้

ผลกระทบในชีวิตประจำวันของเพื่อนบ้านที่ต้องเผชิญกับเสียงรบกวน

เสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านที่ทำคอนเทนต์เสียงดังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเพื่อนบ้านได้อย่างมาก เสียงที่ดังเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียด และเมื่อเสียงรบกวนนี้เกิดซ้ำ ๆ ก็อาจส่งผลต่อการนอนหลับ การทำงาน หรือชีวิตประจำวันได้ สำหรับบางคน การขาดการนอนหลับเพียงพอส่งผลโดยตรงต่อการทำงานและประสิทธิภาพการเรียน การฟังเสียงรบกวนที่ควบคุมไม่ได้ยังเพิ่มความวิตกกังวลและความหงุดหงิด หากเสียงนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องการพักผ่อนหรือโฟกัสกับงานส่วนตัวในการทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง เช่น การประชุมออนไลน์ การทำงานที่บ้าน หรือการอ่านหนังสือ ก็อาจถูกรบกวนจากเสียงของเพื่อนบ้านที่ทำคอนเทนต์โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัญหานี้จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลายคนที่ต้องการสมาธิและบรรยากาศสงบในการใช้ชีวิตประจำวัน

บทบาทของนิติบุคคลในการแก้ปัญหา

สำหรับผู้อยู่อาศัยในโครงการหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียม นิติบุคคลสามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดการและแก้ไขปัญหาได้ โดยสามารถเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างเพื่อนบ้าน เพื่อให้ผู้กระทำทราบถึงผลกระทบของเสียงที่รบกวน และแนะนำให้ลดเสียงลงในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังสามารถใช้มาตรการเชิงป้องกัน เช่น การแจ้งเตือน การประชุมระหว่างผู้อยู่อาศัย หรือการออกข้อบังคับที่ช่วยควบคุมเสียงรบกวนได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความสงบสุขให้กับลูกบ้านในโครงการอีกด้วยครับ

โพสต์ประจานเพื่อนบ้านลงโซเชียล ทำได้หรือไม่?

นิติ SMART ไม่แนะนำให้ลูกบ้านโพสต์ประจานเพื่อนบ้านลงโซเชียลครับ เพราะอาจผลกระทบอื่นๆ ตามมา นอกจากผลกระทบทางกฎหมาย การโพสต์ประจานเพื่อนบ้านยังอาจสร้างปัญหาทางสังคมตามมาได้ ตัวอย่างเช่น เพื่อนบ้านที่ถูกโพสต์ประจานอาจถูกเข้าใจผิดหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง ซึ่งอาจทำให้พวกเขารู้สึกเครียด เสียความมั่นใจ และเกิดความบาดหมางในระยะยาวเพื่อนบ้านได้ ดังนั้น การพูดคุยกันโดยตรงหรือแจ้งให้นิติบุคคลเป็นคนกลางให้เข้ามาช่วยแก้ไขอาจเป็นวิธีการที่เหมาะสมกว่าครับ

ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการโพสต์ประจานเพื่อนบ้านลงโซเชียล

การโพสต์เรื่องราวเพื่อนบ้านเสียงดังลงในโซเชียลอาจดูเป็นวิธีระบายความรำคาญ แต่ในทางกฎหมาย การโพสต์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ซึ่งระบุว่า: “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท” หากโพสต์ที่เผยแพร่ลงโซเชียลนั้นทำให้เพื่อนบ้านเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือเกิดความเกลียดชัง ผู้โพสต์อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากการโพสต์มีลักษณะการเผยแพร่ที่เป็นการโฆษณา เช่น ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก ความผิดดังกล่าวอาจเข้าข่ายตาม มาตรา 328 ซึ่งระบุว่า “หากความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพยนตร์ ภาพโฆษณา หรือวิธีอื่นใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”

แนวทางการสื่อสารเพื่อแก้ปัญหา

สำหรับเพื่อนบ้านที่ต้องการให้เพื่อนบ้านรับรู้ถึงปัญหาและผลกระทบจากเสียงรบกวนด้วยตัวเอง นิติ SMART ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการสื่อสารอย่างสุภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางหรือความขัดแย้ง การสื่อสารที่เข้าใจกันจะช่วยให้ปัญหาคลี่คลายได้มากขึ้น ซึ่งอาจทำได้ดังนี้ครับ

  1. การเข้าพูดคุยโดยตรง ลองพูดคุยกับเพื่อนบ้านแบบตรงไปตรงมา โดยเริ่มต้นด้วยการแสดงความเข้าใจถึงความสำคัญของงานที่เพื่อนบ้านทำ จากนั้นค่อยบอกเล่าถึงผลกระทบของเสียงที่มีต่อชีวิตประจำวัน และขอความร่วมมือให้ลดเสียงลงหรือเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน
  2. ใช้ถ้อยคำที่สุภาพและเป็นมิตร การพูดคุยแบบเป็นมิตรและแสดงถึงความเข้าใจจะช่วยลดความตึงเครียดระหว่างกัน การสื่อสารที่สุภาพจะทำให้เพื่อนบ้านรับฟังและเกิดการตอบสนองที่ดีกว่า
  3. แจ้งปัญหาผ่านนิติบุคคล หากพูดคุยแล้วไม่เห็นผล การแจ้งปัญหาผ่านนิติบุคคลหรือผู้ดูแลอาคารก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง โดยเฉพาะหากการรบกวนเกิดขึ้นบ่อยและมีผลกระทบมาก

ทางเลือกอื่นแทนการโพสต์ประจานในโซเชียล

การจัดการกับปัญหาเสียงรบกวนด้วยวิธีอื่นแทนการโพสต์ในโซเชียลจะช่วยลดปัญหาที่อาจตามมาและช่วยให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เช่น:

  • การเขียนหนังสือถึงเพื่อนบ้าน ลองเขียนหนังสือสั้น ๆ โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาและแสดงความปรารถนาดีให้เพื่อนบ้านเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น การเขียนนี้ควรสุภาพและเป็นมิตรเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
  • มอบของขวัญหรือตีสนิทกับเพื่อนบ้าน การมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแสดงน้ำใจ เช่น ขนม ของฝาก หรือการทักทายและพูดคุยเล็กน้อยในโอกาสเหมาะสม จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เมื่อมีความสนิทสนมกันมากขึ้น การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเสียงรบกวนก็จะเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น การเปิดใจคุยกันในบรรยากาศที่เป็นมิตรช่วยให้เพื่อนบ้านเข้าใจผลกระทบที่เกิดขึ้นและยินดีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ครับ

สรุป

เมื่อเผชิญกับปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดัง ควรเริ่มต้นด้วยการพูดคุยอย่างสุภาพเพื่อให้เพื่อนบ้านทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น การโพสต์ประจานในโซเชียลอาจทำให้ปัญหาบานปลายและเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องตามกฎหมาย หากปัญหายังคงอยู่ การแจ้งนิติบุคคลให้ช่วยจัดการหรือเป็นตัวกลางก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งจะช่วยรักษาบรรยากาศความสงบสุขและความสัมพันธ์ที่ดีในโครงการครับ

เนื้อหาอื่นๆ :  ปัญหาที่ลูกบ้านคอนโดเจอทุกปลายปี และวิธีรับมืออย่างมีมารยาท

ติดต่อเรา