รู้หรือไม่? บ้านและคอนโดต้องทำ EIA ด้วยนะ!
EIA Monitoring หรือ Environmental Impact Assessment คือ การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการศึกษาเพื่อคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี จากการพัฒนาโครงการหรือกิจการที่สำคัญหรือมีขนาดใหญ่ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม และใช้ประกอบการตัดสินใจในการพัฒนาหรือปรับปรุงโครงการกิจการ ผลการศึกษาจะต้องจัดทำเป็นเอกสารที่เรียกว่า “รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม” โรงงานที่เข้าข่ายการจัดทำ EIA ตามที่กฎหมายกำหนดต้องจัดทำรายงาน Monitor ส่งให้หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ส่งภายในเดือนกรกฎาคม (รวบรวมผลการติดตามตรวจสอบระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน)
ครั้งที่ 2 ส่งภายในเดือนมกราคม (รวบรวมผลการติดตามตรวจสอบระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคมของปีก่อน)
เราทำ EIA Monitoring ไปทำไม?
- เพื่อให้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมตามที่มีกำหนดเอาไว้ในรายงาน EIA ของแต่ละโครงการ โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนั้นจึงนำไปปฏิบัติอย่างครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ
- เพื่อติดตามและประเมินแนวโน้มถึงสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลังจากที่โครงการพัฒนาหรือดำเนินการ
- เพื่อประเมินความเหมาะสมของมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อม สำหรับนำไปใช้ปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกัน และแก้ไขผลกระทบที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการต่อผู้ใช้บริการภายในโครงการ หรือชุมชนในบริเวณใกล้เคียงได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
- เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลของโครงการเพื่อกำหนดมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากดำเนินโครงการที่มีต่อชุมชนบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งปัญหาการร้องเรียนต่างๆ
โครงการที่เข้าข่ายต้องจัดทำ EIA
- การจัดสรรที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินและบริหารสัญญากับบริษัทคู่สัญญา
- มีจำนวนที่ดินแปลงย่อยตั้งแต่ 500 แปลง หรือเนื้อที่เกินกว่า 100 ไร่
- อาคารอยู่อาศัยรวมตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
- มีจำนวนห้องพักตั้งแต่ 80 ห้อง ขึ้นไป หรือมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 4,000 ตารางเมตรขึ้นไป
การจัดทำ EIA
ต้องทำการศึกษาให้ครอบคลุมระบบสิ่งแวดล้อมทั้ง 4 ด้าน คือ
- ทรัพยากรชีวภาพ ต้องมีผลการศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่มีต่อระบบนิเวศน์ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ แนวปะการัง เป็นต้น
- ทรัพยกรกายภาพ ผลการศึกษาถึงผลกระทบทางกายภาพทั้งต่อสภาพดิน น้ำ อากาศ เสียง ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
- คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต เป็นผลการศึกษาผลกระทบที่เกิดต่อมนุษย์ ชุมชน ระบบเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยม ทัศนียภาพ คุณค่าของชีวิต และความสวยงามต่างๆ
- คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ ผลการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางกายภาพ และชีวภาพของมนุษย์
EIA Monitoring จึงมีความสำคัญต่อการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อวิเคราะห์และศึกษาผลต่างๆ ที่มีต่อระบบสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุมทั้งด้านทรัพยากรชีวภาพ กายภาพ คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต หรือคุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ให้เกิดประสิทธิภาพ โครงการใดฝ่าฝืนไม่ทำตามข้อกำหนดที่กฎหมายกำหนด หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบก็จะมีสิทธิลงโทษตามระเบียบได้ทันที โดยจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อไปนี้
กรณีเป็นพื้นที่อับอากาศ ให้พิจารณาสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ เพราะพื้นที่อับอากาศเป็นสถานที่ทำงานที่มีเนื้อที่จำกัด ทางเข้าออกมักคับแคบ เกิดปัญหาการระบายความร้อน และอากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ มักเกิดการสะสมของสารเคมีที่เป็นพิษ สารไวไฟ หรือมีปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงต้องทำ EIA Monitoring รายงานผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติงาน
บ่อบำบัดน้ำเสีย น้ำเสียคือน้ำที่ผ่านกระบวนการใช้งานโดยมนุษย์จนกลายเป็นน้ำที่มีคุณภาพไม่เหมาะสม หรือส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม กระบวนการที่เกิดในกิจวัตรประจำวันทั้งการประกอบอาหาร การอาบน้ำ หรือการทำความสะอาด กระบวนการภาคเกษตรกรรม รวมถึงกระบวนการภาคอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้เกิดปริมาณน้ำเสียจำนวนมาก และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมค่อนข้างสูง ลักษณะและที่มาของน้ำเสียคือตัวกำหนดว่าบ่อบำบัดน้ำเสียควรเป็นอย่างไร โดยการบำบัดน้ำเสียคือการนำน้ำเสียมาผ่านกระบวนการเพื่อขจัดสิ่งสกปรก และสารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่ดีต้องปรับปรุงคุณภาพน้ำเสียให้ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด หรือสามารถนำน้ำกลับไปใช้งานได้ใหม่โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต หรือสิ่งแวดล้อม
น้ำใต้ดิน คือน้ำที่ถูกกักเก็บเอาไว้ในชั้นดินระหว่างช่องว่างของเม็ดแร่ ดินและหิน น้ำอาจมีลักษณะไม่อิ่มตัว หากช่องว่างที่กักเก็บเอาไว้มีการเคลื่อนผ่านระหว่างน้ำและอากาศ อาจเรียกว่าน้ำในดิน หรือ Soil Water แต่กรณีที่น้ำอยู่ลึกลงไปใต้ดินจนอยู่ระหว่างช่องว่าง รอยแตกหรือโพรงของชั้นหิน น้ำในบริเวณนี้มักเรียกว่าน้ำบาดาล หรือ Ground Water โดยหินที่โอบอุ้มน้ำเอาไว้ใต้ดิน มักมีลักษณะเป็นหินอุ้มน้ำทำให้สามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ น้ำใต้ดินมักเกิดการเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งคุณภาพของน้ำและการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำ จึงจำเป็นต้องทำ EIA Monitoring แสดงถึงผลกระทบ
กรณีไม่ปฏิบัติหรือไม่ส่งรายงาน EIA Monitoring จะเป็นอย่างไร?
- การกระทำที่ผิดกฎหมาย (มีบทลงโทษตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด กรณีไม่ส่งรายงาน Monitor กำหนดโทษปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท)
- อาจมีผลต่อการพิจารณาเมื่อยื่นขอขยายโครงการหรือขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการต่อหน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณาอนุญาต
- ส่งผลต่อการพิจารณาคดีของศาล หากเกิดกรณีที่ถูกฟ้องร้อง
- การไม่ยอมรับ หรือโครงการถูกต่อต้านจากกิจกรรมของชุมชน
- มีโอกาสไม่ได้รับการส่งเสริม หรือไม่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้รับรางวัล ในกรณีที่ส่งโครงการเข้าประกวดสถานประกอบการดีเด่นด้านสิ่งแวดล้อม เช่น EIA Monitoring Awards
- มีผลต่อการให้เงินลงทุนของสถาบันการเงินต่อโครงการนั้น ๆ
- ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของโครงการที่ดำเนินการ รวมถึงโครงการอื่น ๆ ของเจ้าของโครงการ
หากคณะกรรมการหรือลูกบ้านที่อ่านเรื่องนี้แล้วมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ EIA ภายในโครงการของตนเอง สามารถเช็กการทำ EIA กับนิติบุคคลประจำโครงการได้เลย ลูกบ้าน SMART หายห่วงได้ เพราะโครงการที่อยู่ภายในการบริหารนิติบุคคลของ SMART เรามีการทำ EIA 2 ครั้งต่อปีอย่างสม่ำเสมอ พร้อมตรวจเช็กคุณภาพระบบไฟฟ้า สุขาภิบาล และสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วนครับ 😊




