ทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ต้องคุยยังไงให้เจอกันครึ่งทาง
ใครๆก็บอก “มีเพื่อนบ้านที่ดีเหมือนเป็นพรอันประเสริฐ” แต่บางครั้งฟ้าไม่เป็นใจ เราอาจพบเพื่อนบ้านที่ไม่ถูกใจ หรือ เกิดสถานการณ์ทะเลาะกับเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจสร้างความไม่สบายใจให้ทั้งสองฝ่าย
ใครเคยเจอปัญหาเหล่านี้บ้าง?
ปัญหาเสียงดัง
เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดังตอนกลางคืน, เพื่อนบ้านเลี้ยงสัตว์ส่งเสียงรบกวน, เพื่อนบ้านชอบตะโกนคุยเสียงดัง
ปัญหาเรื่องจอดรถ
เพื่อนบ้านจอดรถขวางหน้าบ้าน, เพื่อนบ้านจอดรถในซอยกีดขวางทางเข้าออก, เพื่อนบ้านจอดรถซ้อนคัน
ปัญหาเรื่องขยะ
เพื่อนบ้านทิ้งขยะไม่เป็นที่ส่งกลิ่นเหม็น, เพื่อนบ้านไม่แยกประเภทขยะ
ปัญหาเรื่องกลิ่น
เพื่อนบ้านเลี้ยงสัตว์ส่งกลิ่นเหม็น, เพื่อนบ้านทำอาหารส่งกลิ่นเหม็น, เพื่อนบ้านเผาขยะส่งกลิ่นเหม็น
ปัญหาเรื่องความสะอาด
เพื่อนบ้านไม่ดูแลรักษาความสะอาดหน้าบ้าน, เพื่อนบ้านทิ้งขยะไม่เป็นที่, เพื่อนบ้านปล่อยให้สัตว์เลี้ยงขับถ่ายเรี่ยราด
วิธีการปรับความเข้าใจกับเพื่อนบ้าน
วันนี้นิติบุคคล SMART จะขอ 4 วิธี ที่ลูกบ้านสามารถนำไปปรับใช้และทำความเข้าใจกับเพื่อนบ้านที่กำลังขุ่นเคืองใจกันอยู่ครับ
1. เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีสติ พร้อมพูดคุยถึงสาเหตุของปัญหา
สิ่งที่ลูกบ้านไม่ควรทำเป็นอย่างแรก คือ รีบร้อนกล่าวโทษหรือตอบโต้อย่างรุนแรงเพื่อเปิดประเด็นการพูดคุย ควรตั้งใจฟังปัญหาด้วยความสุภาพ เปิดใจเพื่อรับมุมมองของทั้งสองฝ่าย เปลี่ยนมาใช้การอธิบายให้เพื่อนบ้านเข้าใจถึงปัญหาและความรู้สึกของเราด้วยความสุภาพ ไม่ควรใช้คำหยาบหรือดูถูกเพื่อนบ้าน
2. ควบคุมอารมณ์ และสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
บางครั้งการสื่อสารสั้นๆ พูดจาโผงผาง หรือประชดประชัน,เหน็บแนม อาจทำให้ประเด็นเล็กๆกลายเป็นประเด็นใหญ่โตได้ ดังนั้นควรมีการอธิบายด้วยคำพูดสุภาพ เน้นย้ำประเด็นสำคัญ พยายามพูดให้ตรงประเด็นพร้อมใช้ภาษากายที่แสดงถึงความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา และควบคุมอารมณ์พยายามหาทางออกให้กับปัญหา และหลีกเลี่ยงการโต้เถียง
3. ไกล่เกลี่ยปัญหาโดยเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย
พยายามหาทางออกที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันในอนาคต ด้วยการประนีประนอมพบกันคนละครึ่งทางเพราะหากยึดตัวเราเป็นใหญ่หรือปฏิเสธข้อเสนอของเพื่อนบ้านโดยไม่พิจารณา อาจทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น ควรยืดหยุ่น หาจุดกึ่งกลางหาข้อเสนอหรือทางเลือกที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย พยายามหาทางออกหลายๆแนวทาง เพื่อให้เพื่อนบ้านมีสิทธิ์เลือก เมื่อเราและเพื่อนบ้านเข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกัน อาจจะนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันเร็วขึ้น
4. ขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่สาม
หากพูดคุยกันแล้วยังหาทางออกไม่ได้เริ่มรู้สึกถึงปัญหาที่รุนแรงขึ้นและไม่ปลอดภัย จำเป็นต้องมีคนมาช่วยพูดคุยหาข้อตกลง นิติบุคคล SMART เรายินดีเป็นสื่อกลางแทนลูกบ้านทุกท่าน เข้าช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาเพื่อให้หาทางออกสำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการวางตัวเป็นกลางยึดหลักข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น กรณีทรัพย์สินเกิดความเสียหาย เราอาจต้องย้อนกลับไปดูหลักฐานว่า เหตุการณ์นั้นส่งผลกระทบและทรัพย์สินอย่างไร
สรุป
การคุยกับเพื่อนบ้านที่มีปัญหาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การใช้เทคนิคในการพูดคุยต่างๆ สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่ย่ำแย่ให้มีทางออก โดยเน้นความใจเย็น พูดคุยด้วยความสุภาพ การอธิบายความรู้สึก ยึดตามหลักข้อเท็จจริง นิติ SMART เชื่อว่าทุกปัญหาของลูกบ้าน มีทางออกเสมอครับ




